3-7 พฤษภาคม 2562
ผู้ใหญ่อยากเที่ยวประกอบกับเด็กปิดเทอม
เราเลือกไปเซี่ยงไฮ้ เพราะอะไร เพราะเจอตั๋วเครื่องบินราคาเร้าใจ เพราะอยากกินหม่ำล่า เพราะอยากไป Disneyland
ทริปนี้ เราเดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ตามตารางดังนี้
- ขาไป วันที่ 3 พ.ค. 62 กรุงเทพ – เซี่ยงไฮ้ XJ760 เวลา 00.10 – 05.30
- ขากลับ วันที่ 7 พ.ค. 62 เซี่ยงไฮ้ – กรุงเทพ XJ 761 เวลา 06.50 – 10.15
ทริคท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้
- ซื้อซิมไปจากเมืองไทย หมดปัญหาเรื่องการใช้ Facebook Googlemap line
- คนจีนสื่อสารภาษาจีน หากเราพูดภาษาจีนไม่ได้ เราจึงต้องวางแผนท่องเที่ยวให้มากหน่อย โดยเฉพาะเตรียมภาพสำหรับการสื่อสาร เช่น ภาพอาหาร ภาพของที่เราต้องการซื้อ
- รถไฟฟ้าในเมืองมีหลายสาย หลายสี ให้ Download App Shanghai Metro Map ติดตัวไว้
- ฟุตบาทในเมืองเซี่ยงไฮ้ดีมาก เหมาะสำหรับรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นคนพิการ
- ฝากท้องในมินิมาร์ทได้ มีที่นั่งทาน ไมโครเวฟ มีอาหารร้อน มีกาแฟ
- ไปเที่ยว Disneyland อย่าลืม Download App Shanghai Disney Resort สามารถตรวจสอบระยะเวลารอคิว การจอง Fast pass แผนที่ กิจกรรมการแสดงในรอบเวลาต่างๆ
- Cashless ที่แท้จริง คนจีนชำระเงินด้วย QR Code, Wellet we chat, Alipay ถ้า Wellet ในประเทศไทยใช้ได้ในเมืองจีน อย่าลืม Download เตรียมไว้ด้วย
- ห้องน้ำสะอาด บางที่สะอาดมาก บางที่กลิ่นแรง
วันที่หนึ่ง
เราเดินทางถึงเซี่ยงไฮ้ เดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟ Meglov ราคา 50 หยวน หากแสดงตั๋วเครื่องบิน ได้รับส่วนลดพิเศษเหลือ 40 หยวน เดินตามป้ายได้เลย
รอบเวลาของรถไฟ Meglov เที่ยวแรกเวลา 7.02 น. รอบความเร็วแล้วแต่เวลา ซึ่งวิ่งได้ความเร็วสูงสุด 430 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถไฟแบบ Maglev หรือ Magnetically levitating เป็นระบบการขนส่งรูปแบบหนึ่งที่ใช้แรงยกตัวของแม่เหล็กไฟฟ้าให้ตัวยานพาหนะลอยขึ้นเหนือราง วิ่งแทนล้อ เหลาหรือลูกปืนลดความเสียดทาน อำนาจแม่เหล็กจะยกยานพาหนะลอยขึ้นเหนือรางเพียงเล็กน้อยพร้อมกับสร้างแรงขับเคลื่อนไปข้างล่างได้อย่างรวดเร็ว และเงียบกว่าระบบล้อ
จากสนามบินมาลงสถานี Longyang ใช้เวลาเพียง 7 นาที เราลงสถานีนี้ เพื่อต่อรถไฟอีกสายเข้าเมือง
เรานั่งรถไฟสาย 2 สีเขียวเข้าสู่ตัวเมือง ก่อนเดินทางอย่าลืมซื้อบัตรเติมเงินด้วย เรียกกว่า SPTC (Shanghai public trasportation card และอย่าลืม Save รูปบัตรไว้แสดงตอนซื้อ เชื่อเถอะ พนักงานสื่อสารไม่รู้เรื่องจริงๆ แสดงรูปทีเดียวจบ
ตอนซื้อ ซื้อกับเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟ มัดจำ 20 หยวน เติมเงินครั้งแรกเท่าไหร่ก็ได้ เติมเงินเพิ่มที่ตู้อัตโนมัติ (ไม่รับเงินสด) หรือ FAmily mart (รับเงินสด)
เดินทางต่อไปอีก 30 นาที ก็ถึงสถานี East Nanjing เข้า check in โรงแรม ฝากกระเป๋าไว้ก่อน
โรงแรมที่เข้าพัก คือ Elegance Bund Hotel อยู่ใกล้ the Bund ราคาพอใช้ได้ ดูรายละเอียดรีวิวโรงแรม คลิก รีวิว โรงแรม Elegance bund hotel ใกล้ The bund สุดๆ
ฝากกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย เริ่มท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้กันเลย โดยจุดหมายของเราคือ Shanghai ocean Aquarium อยู่สถานี Lujiazui สาย 2 เรานั่งรถไฟฟ้าเพียง 1 สถานีก็ถึงแล้ว
เมื่อลงสถานี Lujiazui ออกทาง 2 เห็นป้าย Aquarium เดินตามป้ายได้เลย
Shanghai Aquarium
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 160 หยวน เด็ก 110 หยวน
การเดินทาง: สถานี Lujiazui ทางออก 2
ในวันที่เราไป คนจีนมาเที่ยวที่นี่เยอะมาก หนาแน่นสุด ๆ
Aquarium ที่นี่มี 3 ขั้น มีสัตว์น้ำจำนวนมาก แปลก ๆ ก็มีมาก ที่เป็น Hi light คือ อุโมงค์ปลาฉลามตัวใหญ่
บริเวณรอบ ๆ Aquarium มีร้านอาหารไว้ฝากท้องหลายร้าน แต่วันที่เราไป คนเยอะมาก แต่ละร้านคิวยาว เราจึงตัดสินใจไปกินอาหารเที่ยงในห้าง Super Brand Mall แทน (เป็นห้างของซีพีของไทยเรานี่เอง มีธงชาติไทยปลิวไสวอยู่ด้วย)
แถวนี้เป็นแหล่งรวมอาคารสูง ๆ มากมาย เช่น หอไข่มุก อาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ อาคารจินเหมา อาคาร Shanghai world Financial Center และ Disney store ด้วย
รถไฟเลเซอร์ Bund Sightseeing Tunnel
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 50 หยวน เด็ก 25 หยวน
การเดินทาง สถานี Lujiazui
เราเดินทางข้ามฝั่งกลับไปย่านเดอะบัน ด้วยรถไฟเลเซอร์
ข้ามฝั่งมาฝั่ง The Bund ลิตเติ้ลยุโรป
เดินเล่นถนน Nanjing
วันที่ 2 เที่ยวสวนสัตว์ Shanghai Wide Animal park
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 130 หยวน เด็กฟรี
การเดินทาง: สถานี Wide Animal Park สาย 16 ทางออก 1 เดินเท้าหรือนั่งแท็กซี่ก็ได้ ค่อนข้างไกลพอเหนื่อย ๆ
แผนที่
ทางเข้ามีเสือดำต้อนรับ
Hilight Feeding bus จ่ายเพิ่มคนละ 40 หยวน ราคาเท่ากันผู้ใหญ่กับเด็ก
เราเดินทางกลับเข้าเมือง แวะทานชาบูหมาล่าที่ดังที่สุด
ร้านชาบู Hai Di Lao
การเดินทาง: รถไฟฟ้าสาย 2 สถานี People’s square ทางออก 19, 6,7
พิกัด ชั้น 5 อาคาร Shanghai No.1
เดินขึ้นมาถึงชั้น 5 มีเจ้าหน้ารอต้อนรับอย่างดี และพาเราห้องรับรองขณะรอโต๊ะอาหาร
อาหารทานเล่น มีป็อปคอร์น ผัก ผลไม้ น้ำชา
มีบริการทำเล็บด้วยนะ
รอไม่นานก็ได้โต๊ะ ร้านนี้ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นะ เป็นอาหาร A La Cart สั่งอาหารทาง Ipad มีพนักงานคอยบริการให้คำแนะนำว่าควรสั่งอะไร สื่อสารด้วยภาษามือ ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย
น้ำซุบมีให้เลือกหลายรส แบบเผ็ดและไม่เผ็ด และแน่นอนมาเซี่ยงไฮ้ต้องทานน้ำซุปหม่าล่า อร่อยมากจริงๆ แตกต่างจากเมืองไทย หม่าล่าที่นี่ไม่เผ็ดมาก ยังได้รสชาติความหวานของซุป เมื่อทานแล้วชาลิ้น สะใจ
น้ำจิ้มปรุงเอง ผสมได้ตามใจ ผสมอย่างไรก็อร่อย
ทานเสร็จ เราเดินกลับโรงแรม เดินย่อยไปเรื่อย ๆ วันนี้เดินไป 28,000 ก้าว สะใจมาก
ติดตามตอนที่ 2 คลิก แชร์แผนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เด็กเที่ยวได้ ผู้ใหญ่เที่ยวดี ตอนที่ 2
One Comment Add yours