พาเด็กตะลุยสิงคโปร์ Update 2023

29 เม.ย. – 3 พ.ค. 2566 เราไปเที่ยวกันที่สิงคโปร์

สำหรับทริปนี้ พิเศษมาก ๆ เพราะเราพาเด็ก 9 ขวบไปเที่ยวด้วย เลยวางแผนเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุกทุกวัน

Note : หาตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด เปรียบเทียบราคาค่าตั๋วจาก Sky scanner

เราเลือกบินกับการบินไทย ราคาดีงาม คุ้ม

Departure   TG403 กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – สิงคโปร์ 8.00 – 11.25 น.

Return         TG410  สิงคโปร์ – กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) 20.50 – 22.10น.

น้ำหนักกระเป๋า 30 กก. + Carry on 7 กก.

แผนเที่ยว 5 วัน 4 คืน

วันที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ – jewel – fountain of wealth

วันที่ 2 Singapore zoop

วันที่ 3 universal studios – cable car

วันที่ 4 Lego land Malaysia – Singapore flyer

วันที่ 5 River wonders – สนามบินชางกี

Note: การซื้อตั๋วกิจกรรมต่าง ๆ เราเลือกซื้อผ่าน Klook มีตั๋ว Klook pass Singapore เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ 2-10 แห่งแบบครบจบด้วยบัตรใบเดียว แถมราคายังมีส่วนลดอีกด้วย จึงควรต้องวางแผนสถานที่ท่องเที่ยวให้เรียบร้อยก่อน แล้วซื้อทีเดียว บอกเลยว่าคุ้ม

พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเลย

ถึงสนามบินชางกี ลง Terminal 1 ผ่าน ต.ม แบบฉลุย เรารับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกมาเจอ Jewel เลย

น้ำพุ  HSBC Rain Vortex สวย ยิ่งใหญ่ อลังการ ตกแต่งด้วยต้นไม้รอบด้าน เหมือนสวนลอยบาบิโลน ถ่ายรูปมุมไหน ที่ชั้นไหนก็สวย

ลงมาที่ชั้น B2 ก็พบกับความสวยงามของน้ำพุอีกรูปแบบหนึ่ง ลักษณะเหมือนเป็นแท็งค์น้ำ เก็บเสียงเงียบมาก

อาหารเที่ยง เราทานกันที่ Song FA Bak Kut Teh อยู่ที่ชั้น B2 นี่เอง

รสชาดอร่อยเหมือนที่ประเทศไทย เพิ่มเติม คือ แพง

เราเดินทางเข้าเมืองกัน ลืมบอกไปว่าเราซื้อ NETS FlashPay (มัดจำ 5 SGD และเก็บมูลค่า15SGD) จาก Klook ที่ประเทศไทย ทำให้เราไม่ต้องต่อคิวซื้อที่สิงคโปร์ ลดเวลาเดินทางได้ดีมาก แถมราคาประหยัดอีกด้วย

เราเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้า สะดวกมาก จากสนามบิน Changi Airport (CG2) -Tanah Merah (EW4) – City hall (EW13) ไปลงที่ Newton (NS21)

เช็คอินโรงแรม Sheraton Tower สถานี Newton

ห้องนอนแบบ connect 2 ห้องติดกัน ถูกใจสายครอบครัว

ห้องพักดีมาก เตียงใหญ่ นุ่ม นิ่ม

ห้องน้ำกว้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว ก็ลุยเที่ยวกันเลย

แล้วก็ …. ฝนตก เราเลยเปลี่ยนแผน มาแวะที่ห้าง Suntec City เที่ยว Fountain of wealth หรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง

การเดินทางจากโรงแรมสะดวก นั่งรถไฟฟ้าสาย Downtown – Newton (DT11) – Promenade (DT15)

น้ำพุเปิดให้เข้าชม วันละ 3 เวลา 10am – 12pm | 2pm – 4pm | 6pm – 7.30pm

อาหารเย็น ร้าน KOKORO เพราะเด็กอยากทานราเมง ร้านนี้คิวยาว แต่อร่อยมากแนะนำให้ลองชิม

วันที่ 2 Singapore zoo

เติมพลังกันก่อน ด้วยอาหารเช้าสไตล์สิงคโปร์ คือ ขนมปัง ไข่ลวก และกาแฟนม ในตำนาน

เราเลือกทานที่ร้าน Toast Box เพราะขนมปังนุ่ม ไม่แข็งแห้ง ส่วนไข่ลวกใบใหญ่ อร่อยกว่าบ้านเรา

Note: ร้าน Toast box ในห้างต่าง ๆ จะเปิดเร็ว เพื่อให้บริการอาหารเช้า

อิ่มท้องเรียบร้อย เราเที่ยวกันเลย ที่ Singapore Zoo

การเดินทาง นั่งรถไฟสายสีแดง ลงสถานี Khatib (NS14) แล้วต่อ Shuttle bus ของสวนสัตว์

เห็นป้ายชัดมาก ไม่ต้องกลัวหลง

ค่ารถ คนละ 1 SGD สามารถชำระด้วยบัตรเครดิตได้

Singapore Zoo เป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แนะนำให้เที่ยวทั้งวันแบบชิว ๆ

     ภายสวนสัตว์สิงคโปร์จะแบ่งออกเป็น 11 โซน โดยแต่ละโซนจะมีรูปแบบเฉพาะตัวที่แตกต่างกันดังนี้

  1. Frozen Tundra เป็นโซนที่หนาวเย็น มี หมีขั้วโลก เป็นไฮไลท์ – ปัจจุบันไม่มีแล้ว
  2. Wild Africa เป็นโซนที่จัดแบบป่าแอฟริกา ที่มีเสือดาว เสื้อชีต้า ยีราฟ เป็นต้น
  3. Fragile Forest ที่เป็นโดมเปิดโล่ง ด้านในมี ลิง ค่าง กบ ค้างคาว
  4. Australian Zone ที่จัดแสดงสัตว์จากทวีปออสเตรเลีย เช่น จิงโจ้
  5. Great Rift Valley of Ethiopia ที่จัดธีมเป็นแบบแอฟฟริกันพร้อมสัตว์ต่างๆ เช่น ลิงบาบูน
  6. Treetops Trail เป็นโซนแรกที่อยู่หน้าทางเข้า ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยป่าดิบชื้นที่มีลิง และค่าง ที่ปีนป่ายไปมาได้อย่างอิสระเสรี
  7. Gibbon Island เป็นอีกหนึ่งโซนของสัตว์ตระกูลลิง แต่คนละชนิดกัน
  8. Primate Kingdom เป็นโซนสำหรับสัตว์ตระกูลิงที่มีขนาดใหญ่ มีหลากหลายสายพันธ์ให้ชม
  9. Reptile Garden เป็นโซนสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่มีไฮไลท์เป็นมังกรโคโมโด เต่ายักษ์ อิกัวน่า และงูเหลือม
  10. Critters-longhouse
  11. Tropical Crops & Orchid Garden เป็นสวนที่จัดแสดงพืชพันธ์ต่างๆของป่าร้อนชื้นโดยเฉพาะกล้วยไม้หลายสายพันธ์ที่ออกดอกเบ่งบาน

เที่ยวชมด้วยการนั่งรถรางสบาย ๆ มี 4 สถานี สามารถขึ้นลงได้ไม่จำกัด

ชอบโซนนี้ Wild Africa เป็นโซนที่จัดแบบป่าแอฟริกา ที่มีเสือดาว เสื้อชีต้า ยีราฟ เป็นต้น

โซน Reptopia เป็นสัตว์เลื้อยคลาน โซนนี้ เด็กชอบมาก

Fragile Forest ที่เป็นโดมเปิดโล่ง ด้านในมีผีเสื้อจำนวนมาก ลิง ค่าง กบ ค้างคาว

ชม VDO คลิก https://youtu.be/w7G3I3AH64s

อาหารเย็น เรามาทานกันที่ Newton Food Center อยู่ตรงข้ามโรงแรมของเรา สถานี Newton

อาหารหลากหลาย ราคาไม่แพง เริ่มต้น ราคา 5 SGD

วันที่ 3 Universal Studio

เราเติมพลังอาหารเช้าที่ร้าน Toast Box เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนสาขาไปทานกันที่ VIVO

เราเลือกวิธีการข้ามไปเกาะ Sentosa ด้วยการนั่ง Cable carได้ชมวิวไปในตัว

วิธีการเดินทางไป Cable car ง่ายมาก ลงสถานี Harbour front (NE1) แล้วเดินทางป้ายได้เลย

เราซื้อตั๋วผ่าน Klook รับเป็น e ticket ไม่ต้องต่อคิว สามารถเดินไปขึ้น Cable car ได้เลย

กระเช้า Cable car มี 2 สาย คือ Mount Faber line และ Sentosa Line เราสามารถนั่งได้ทั้ง 2 สาย

  • ขาไป นั่งMount Faber line จาก Harbourfront – Sentosa
  • เปลี่ยนสายนั่ง Sentosa Line ชมวิวทะเล จาก สถานี Imbiah Lookout ผ่าน siloso points แล้ววนไปลงที่สถานี Merlion

ชม VDO คลิก https://youtu.be/0on_t9hJtNM

ถึงแล้ว Universal Studio

เรามาช่วงวันหยุดวันแรงงาน คนเยอะเป็นพิเศษโดยเฉพาะคนอินเดีย

โซนมาดากัสก้า ปิด เพื่อพัฒนาเป็นโซนใหม่

โซน Sci Fi City

  • TRANSFORMERS The Ride: The Ultimate 3D Battle เป็นเครื่องเล่นแบบ 3 มิติ นั่งยานผจญภัยสวมบทบาทเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในสงครามการต่อสู้ของเหล่า ดิเซปติคอน และ ออโต้บอท (รอนานมาก 2 ชั่วโมงกว่า)
  • Battlestar Galactica: Human vs. Cylon เป็นรถไฟเหาะ เลือกได้ว่าจะเล่นฝั่ง Human หรือ Cylon เราไม่ได้เล่น เพราะต่อคิวยาวนานเกินไป

โซน Ancient Egypt

  • Revenge of the Mummy เป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกาในล่มที่อยู่ในความมืด เข้าคิวยาวมาก แต่จำเป็นต้องเข้าคิว ข้างในอากาศค่อนข้างอับชื้น หายใจแทบไม่ออก
  • Treasure Hunters ผจญภัยไปในผืนทรายต้องห้ามของอียิปต์โบราณ ขับรถตามหาสมบัติที่ซ่อนอยู่เหมาะกับหนูๆที่มีความฝันอยากเป็นนักโบราณคดีอีกด้วย

โซน The Lost World

  • ประตูทางเข้าจะมี Discovery Food Court ร้านขายของที่ระลึก ที่จำลองมาจากในหนังเหมือนจุดบริการนักท่องเที่ยวในหนัง Jurassic Park อีกด้วย โดยโซนนี้ปิดปรับปรุงอยู่
  • ชมวิวจากมุมสูงด้วยเครื่องเล่น Canopy Flyer พาบินไปบนท้องฟ้าเหนือโลกของ Jurassic Park
  • Jurassic Park Rapids Adventure ที่จะให้เราขึ้นแพล่องแก่งไปตามแม่น้ำของ Jurassic Park ไหลไปตามกระแสน้ำ เจอกับเหล่าไดโนเสาร์ตัวป่วนและเหตุการณ์ต่างๆในหนัง

โซน Far Far Away

  • ชม Shrek 4-D Adventure
  • Donkey Live ให้ฟีลเหมือนชมละครเวที  ร้อง เต้นเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงในละครเวที เติมเต็มความสุขสุดๆ
  • รถไฟเหาะ Enchanted Airways เป็นรถไฟเหาะมังกรอันเป็นที่รักของเจ้าลาดองกี้ บินเหนือ Far Far Away เพื่อพบกับเหล่าสัตว์ในเทพนิยายมากมาย ตั้งแต่ Tree Little Pigs ไปจนถึง Big Bad Wolf จาก Gingy ไปจนถึง Pinocchio เป็นรถไฟเหาะความเร็วระดับประถมที่ไม่ได้เร็วมากนัก
  • Puss In Boots’ Giant Journey ปิดปรับปรุง

ชม VDO คลิก https://youtu.be/0on_t9hJtNM

อาหารเย็น เรามาทานข้าวมันไก่สิงคโปร์ที่ Food Republic ที่ VIVO อร่อยสุด ๆ ไปเลย เด็กชอบมาก

วันที่ 4 Lego land มาเลเซีย

ขึ้นรถบัสไปเลโก้แลนด์ มาเลเซีย เราซื้อตั๋ว Lego land และรถรับส่งผ่าน Klook ให้บริการโดย WTS

ตารางการเดินทาง

  • ขาไป Pick up points – Singapore Flyer Coach Bay (Check-in at 0845)
  • ขากลับ LEGOLAND Coach Bay (Check-in at 1645)

ปัจจุบัน บ. WTS ไม่มีห้องตั๋วเปิดให้บริการที่ใต้ Singapore flyer แล้ว แต่ไม่ต้องตกใจไป ให้สังเกตุป้าย meeting points และรอรถตรงจุดนั้นได้เลย

พื้นที่ Logoland ค่อนข้างกว้าง สามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน

สวนสนุกเลโก้แลนด์ของมาเลเซียเป็นแห่งที่ 6 ของโลก และแห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่ที่อิสกันดาร์ รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ทางตอนใต้สุดของแหลมมลายู ติดกับประเทศสิงคโปร์ เป็นสวนสนุกสำหรับครอบครัวและเด็กอายุ 2 – 14 ปี ด้วยเครื่องเล่นกว่า 40 ชนิด บนพื้นที่กว่า 200 ไร่

ภายในสวนสนุก LEGO LAND แบ่งออกเป็น 7 โซน

  1. The Begining ตั้งอยู่บริเวณทางเข้า เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านขายสินค้า และของที่ระลึก
  2. Miniland เมืองจำลอง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของประเทศต่างๆ ในเอเชีย ประกอบขึ้นจากตัวต่อเลโก้
  3. Lego Technic โซนเครื่องเล่นเด็กโต จุดเด่นอยู่ที่ รถไฟเหาะ (Project X)
  4. Lego Kingdom โซนนี้โดดเด่นที่ปราสาท Castle Stage และนั่งรถไฟเหาะ The Dragon
  5. Land of Adventure ต้องไม่พลาดที่ผจญภัยกับสายน้ำที่เกาะไดโนเสาร์ (Dino Island) และ Lost Kingdom
  6. Imagination โซนสร้างสรรค์จินตนาการ พร้อมเครื่องเล่นที่น่าสนใจเช่น Observation Tower และ Kids Power Tower
  7. Lego City โซนนี้มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กให้เรียนรู้เช่น Boating School และ Junior Driving School

เครื่องเล่น Ninjago เป็นเครื่องเล่น ใช้มือเป็นอาวุธเหมือนปล่อยอาวุธลับ สนุกมาก เล่น 2 รอบเลย

อาหารเที่ยง พิซซ่าในร้าน Pizza mania อร่อยมาก

โซนกิจกรรมช่วยกันดับเพลิง

ต่อรถเลโก้กัน

Mini land จำลองสถานที่สำคัญแบบย่อส่วน และสร้างด้วยเลโก้

ชม VDO คลิก https://youtu.be/B6ULytWfhCk

กลับมาจาก Lego land แล้ว นั่งกระเช้าชมวิวกันต่อเลย

นั่ง Singapore Flyer ถ่ายรูป Landmark ของสิงคโปร์ ใช้เวลา 30 นาที (หมุน 1 รอบ)

ชม VDO คลิกhttps://youtu.be/USNFqRJDXuU

วันที่ 5 River wonders

ตั้งอยู่ระหว่างสวนสัตว์สิงคโปร์และไนท์ซาฟารี ริเวอร์ซาฟารีเป็นทั้งสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในธีมแม่น้ำ อุทยานสัตว์ป่าแห่งใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์มีสัตว์มากกว่า 6,000 ตัว รวมถึง 40 สายพันธุ์ โดยโซนเหล่านี้จะจำลองแหล่งที่อยู่อาศัยของแม่น้ำทั่วโลก ตั้งแต่แม่น้ำมิสซิสซิปปีไปจนถึงแม่น้ำแยงซี

การเดินทาง เหมือนกับ Singapore zoo สวนอยู่ติดกัน

สวนไม่กว้างเท่าไหร่ เที่ยวครึ่งวันก็ทั่วแล้ว

โซนของแม่น้ำทั้ง 8 โซนมีดังนี้

  • River Wonders จะเป็นการจำลองบรรยากาศและระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตต่างๆบริเวณแม่น้ำ เช่น นก, ลิง และปลา ชนิดต่างๆ
  • Mississippi River แม่น้ำสายสำคัญของทวีปอเมริกาเหนือ มีสัตว์หาชมยากคือ ปลาจรเข้ เต่าอัลลิเกเตอร์ และฉลามปากเป็ด
  • Congo River เป็นแม่น้ำของทวีปแอฟฟริกา เป็นแม่น้ำที่มีความลึกมากที่สุดในโลก และยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก มีปลาสีสันสดใสจากแอฟฟริกาจัดแสดงอยู่หลายชนิด
  • River Nile เป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในโลก ที่ไหลผ่าน 10 ประเทศของทวีปแอฟฟริกา มีปลาหายากหลายสายพันธ์ให้ชม เช่น ปลาอะโลวาน่า ขนาดใหญ่, ปลาเสือ และปลายีราฟ
  • Ganges River หรือแม่น้ำคงคา เป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศอินเดีย ที่เป็นโซนจัดแสดงสัตว์น้ำหน้าตาแปลก เช่น ปลาดุก ตะโขงอินเดีย และตะพาบหน้ากบ
  • Mary River เป็นการจำลองชีวิตของสัตว์น้ำจืดในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศออสเตรเลีย Mekong River แม่น้ำโขง มีปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ เช่น ปลาบึก ปลาดุก
  • Yangtze  River แม่น้ำแยงซี เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของเอเชีย มีสัตว์จัดแสดงเช่น ซาลามานเดอร์ยักษ์ จระเข้จีน

ปลาตัวใหญ่ น้ำใสแจ๋ว

โซน แพนด้า มี พ่อ แม่ ลูก เจีย เจีย ไค ไค และ Le Le

ชอบโซนนี้มาก เพราะห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ

Amazon River Quest นั่งเรือชมป่าอะเมซอน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มคนละ 5 SGD

โซน Amazon Flooded Forest ไฮไลท์ คือ ชมน้องพะยูนตัวใหญ่ และตู้กระจกสุดอลังการ

ชม VDO คลิก https://youtu.be/w7G3I3AH64s

เที่ยวเสร็จก็เดินทางกลับโรงแรม เพื่อเดินทางต่อไปยังสนามบินชางกี เดินทางกลับประเทศไทยด้วยความสุข

Leave a Reply