วันที่ 13-15 สิงหาคม 2563 เราได้จองตั๋วแอร์เอเชียบุฟเฟต์ เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองบุรีรัมย์ ไฟล์ทบินไปสนามบินบุรีรัมย์ เวลาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เราเดินทางไปช่วงบ่าย ถึงตอนเย็น



เรามาถึงช่วงเย็น ต้องท่องเที่ยวกันในตัวเมืองบุรีรัมย์ ที่แรกที่เราต้องมาคือลูกชิ้นยืนกิน ไม่กินถือว่ามาไม่ถึงนะ
ลูกชิ้นยืนกิน ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ สมัยก่อนร้านลูกชิ้นเป็นรถเข็น ตั้งเรียงรายริมถนน แต่ตอนนี้มีการจัดระเบียบ แบ่งโซนชัดเจน ไม่กีดขวางทางจราจร






ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ แวะสักการะบูชาขอให้ท่องเที่ยวด้วยความปลอดภัย
มีความเชื่อว่า ณ บริเวณนี้เคยเป็นจุดพักรบของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 และยังเป็นจุดกำเนิดเมืองบุรีรัมย์อีกด้วย ที่นี่จึงถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เคารพสักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่สำคัญของชาวบุรีรัมย์ เดิมเป็นเพียงศาลที่มีขนาดเล็กๆ ในปี พ.ศ.2548 จึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ และได้อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเสื้อเมือง เทพารักษ์ และพระทรงเมืองเพื่อมาปกปักษ์รักษาคุ้มครอง ป้องกัน ให้บ้านเมือง อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ความแปลกประการหนึ่งคือ เสาหลักเมืองที่ปรากฏ มีอยู่ 2 ต้น มีข้อสันนิษฐานว่า เสาต้นที่ 1 (ต้นเอียง) เป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อสร้างเมืองแปะ ส่วนเสาหลักเมืองต้นที่ 2 น่าจะเป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อมีฐานะเป็น จังหวัดบุรีรัมย์และได้สร้างใกล้ชิดติดกัน







อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1
Note จากจดหมายเหตุประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 7 กล่าวว่า ใน พ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดให้สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปปราบพระยานางรองซึ่งคบคิดกับเจ้าโอ เจ้าอินแห่งจำปาศักดิ์ ขณะเดินทัพพบเมืองร้างอยู่ที่ลุ่มน้ำห้วยจระเข้มาก มีชัยภูมิดีแต่ไข้ป่าชุกชุม ชาวเขมรป่าดงไม่กล้าเข้ามาอยู่อาศัย แต่ตั้งบ้านเรือนอยู่โดยรอบ จึงรวบรวมผู้คนตั้งเป็นเมืองแปะ และให้บุตรเจ้าเมืองพุทไธสมันซึ่งติดตามมาด้วยเป็นเจ้าเมือง ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยานครภักดี ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น เมืองบุรีรัมย์



รีวิวโรงแรม B2 Burirum Boutique and budget คลิกที่นี่
อาหารเย็น เราฝากท้องที่ร้านตี๋ภาค 3 คนเยอะมากถึงขนาดไปตั้งโต๊ะอยู่ริมถนน รสชาติอร่อยมาตรฐาน ไม่ได้อร่อยเป็นพิเศษ เมนูที่คนขายแนะนำ คือ เป็ดพะโล้ หมูเค็มทอด และผัดผักบุ้งไฟแดง




เราเข้าพักที่โรงแรม บีทู โรงแรมขนาดกะทัดรัด ใจกลางเมืองบุรีรัมย์



เช้าวันที่ 2 ตามรอยอารยธรรมขอมโบราณ
กองทัพเดินด้วยท้อง เราจัดมื้อเช้ากันเต็มที่ ร้านโจ้กเจ้รินทร์ ร้านอยู่ริมถนนในตัวเมือง หาง่าย





ปราสาทเมืองต่ำ เป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาทมรรคา เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น เพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือประจำชุมชน







ปราสาทบ้านบุ เป็นธรรมศาลา หรือบ้านมีไฟ หรือโรงแรมโบราณ ตั้งอยู่ภายในเขตโรงเรียนบ้านบุวิทยาสรรค์ ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์เป็นโบราณสถานขนาดเล็กหลังเดียว ก่อสร้างด้วยศิลาแลง พ.ศ. 2556 กรมศิลปากรได้ทำการสำรวจและทดลองประกอบส่วนหลังคาที่พังลงมาเพื่อเตรียมทำการบูรณะปราสาทบ้านบุใหม่ให้สมบูรณ์ขึ้นในปีถัดไป จนสวยงามจนถึงปัจจุบัน





กุฏิฤาษีหนองบัวลาย เป็นอโรคยาศาลา หรือโรงพยาบาลโบราณ





ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ได้สถาปนาสร้างเป็นเทวสถานถวายพระศิวะ ชอบหน้าบันกับทับหลังที่ยังสมบูรณ์ ภาพเล่าเรื่องราวมากมายคล้ายนครวัด ปรางค์ต่าง ๆ บูรณะเป็นอย่างดี สมบูรณ์มาก มีกิมมิคพระอาทิตย์ลอดผ่านช่องประตู และด้วยพื้นที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเขา ความเห็นส่วนตัวยังคงให้พนมรุ้งเป็นปราสาทหินอันดับ 1 ในไทย












รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทหิน คลิกที่นี่
เราเดินทางต่อไปยัง เพลาเพลิน รีสอร์ทที่สวยงามที่สุดในบุรีรัมย์ มีแหล่งชมดอกไม้สวยๆ นะ 🌸🌼🌺






รีวิวโรงแรมเพลาเพลินแบบเต็มๆ คลิกที่นี่
ฝากท้องมื้อเย็นที่เพลาเพลิน ห้องอาหารเพลาภิรมย์ (สั่งล่วงหน้า)





อาหารเช้าที่โรงแรมแบบบุฟเฟต์ และมีอาหารปรุงสดด้วย




กิจกรรมเพียบที่เพลาเพลิน ชมดอกไม้และสถานที่สวยงาม
โรงเรือนที่ 1 ดอกไม้ตามฤดูกาล หน้าฝนก็จะพบกับดอกกระเจียว
โรงเรือนที่ 2 ป่าดึกดำบรรพ์ เฟิร์นยักษ์ ไม้กลายเป็นหิน โรงเรือนนี้ อากาศเย็น รู้สึกได้ถึงอากาศที่ดี สดชื่น ชุ่มปอด
โรงเรือนที่ 3 พืชกับแมลง ประดับดอกไม้ ต้นไม้สวยๆ แนว creative
โรงเรือนที่ 4 พืชเขตร้อน ตะบองเพชร ทะเลทราย และพีรามิด
โรงเรือนที่ 5 ดงดอกหน้าวัว
รีวิวเต็มๆ คลิก คลิกที่นี่









มื้อเที่ยง เราฝากท้องที่เพลาเพลินเช่นกัน อยากลองชิมขาหมูที่ได้รับรางวัล อร่อยจริง




เช็คเอ้าท์และเดินทางกลับ กทม ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย จบทริปบุรีรัมย์ 3 วัน 2 คืน